สารพิษรั่ว ดับทัน มีทีมประกบดูดไปทำลาย 1 กม.ห้ามเข้า
บันทึก
SHARE
เจ้าหน้าที่ระทึกข้อต่อท่อส่งสารเคมีรั่วในโรงงานหมิงตี้ เร่งฉีดน้ำยาเอฟ 500 เพื่อเข้าไปปิดวาล์วจนสำเร็จ หน่วยปฏิบัติการต่างปวดแสบ ปวดร้อนที่ผิวหนังกับละอองเคมี รีบถอดชุดป้องกันล้างตัว ส่วนชาวบ้านในรัศมี 1 กม.ยังเข้าพื้นที่ไม่ได้ ขณะที่อธิบดี คพ.เผยส่งทีมงานร่วมกับกรมวิทยาศาสตร์ทหารบก เฝ้าระวังการดูดสารเคมีไปทำลาย “อนุชา” มอบเงิน 1 แสนบาทให้ครอบครัว “น้องพอส” เจ้าหน้าที่ยังเฝ้าระวังถังสารเคมีในโรงงานหมิงตี้ เคมีคอล จำกัด เลขที่ 87 ซอยกิ่งแก้ว 21 หมู่ 15 ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ อาจจะรั่วไหลออกมาด้านนอกหลังเพลิงสงบ ส่วนนักผจญเพลิง ปภ.นำสารเคมี DEHA หรือ D5 เทลงไปในถังเก็บสารเคมีขนาดใหญ่ เพื่อปรับสภาพสารที่ตกค้างไม่ให้ติดไฟได้ และเตรียมการถ่ายสารโดยจะใช้ระบบการดูดสารสไตรีนมีอยู่ประมาณ 600 ตันหรือ 6 แสนลิตรไปทำลายที่ บมจ.อัคคีปราการ ตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมบางปู จ.สมุทรปราการ ขณะนี้เปิดศูนย์อพยพ 4 ศูนย์ มีชาวบ้านพัก 199 คน
ความคืบหน้าเมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 9 ก.ค. เจ้าหน้าที่ ปภ.ตรวจพบการรั่วไหลของสารสไตรีน บริเวณถังกักเก็บสารเคมีดังกล่าว เป็นบริเวณข้อต่อท่อส่งขนาด 6 นิ้ว มีกลิ่นกระจายออกมา เจ้าหน้าที่ปฏิบัติการส่งทีมเข้าไปฉีดน้ำยาเอฟ 500 เพื่อเข้าปิดวาล์วหยุดการรั่วไหลได้สำเร็จใช้เวลากว่า 30 นาที จากเหตุการณ์ดังกล่าว เจ้าหน้าที่ถูกละอองของสารเคมี มีอาการแสบร้อนที่ผิวหนัง ต้องรีบถอดชุดป้องกันออกและล้างตัวเป็นการด่วน ส่วนปฏิบัติการเก็บกู้สารสไตรีนที่อยู่ในถังอยู่ระหว่างดำเนินการ
ข่าวแนะนำ
ส่วนสถานการณ์ที่ศูนย์อพยพ อบต.บางพลีใหญ่ ขณะนี้มีชาวบ้านยังพักอยู่ 190 คน ทั้งหมดพักอาศัยอยู่ในรัศมีห่างจากโรงงาน 1 กม. เจ้าหน้าที่ประกาศให้เป็นพื้นที่ควบคุมจนกว่าการขนถ่ายสารเคมีกว่า 6 แสนลิตรจะปลอดภัย 100 เปอร์เซ็นต์ จากนั้นเจ้าหน้าที่จะประชุมและพิจารณาผ่อนคลาย อนุญาตให้ชาวบ้านที่ศูนย์อพยพกลับเข้าที่พักใช้ชีวิตตามปกติ
นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) เปิดเผยว่า จากการติดตามสถานการณ์คุณภาพอากาศใน จ.สมุทรปราการ และกรุงเทพมหานคร บริเวณที่ห่างจากจุดเพลิงไหม้โรงงานหมิงตี้ เคมีคอล จำกัด รัศมีตั้งแต่ 1-20 กม. ในภาพรวมยังคงมีค่าอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานทุกพื้นที่ คุณภาพอากาศอยู่ในระดับไม่มีผลกระทบต่อสุขภาพอนามัย ประชาชนสามารถทำกิจกรรมได้ตามปกติ ทั้งนี้ คพ.เฝ้าระวังในรัศมี 1 กม.จากจุดเกิดเหตุเพลิงไหม้อย่างต่อเนื่อง จะรายงานให้ทราบเป็นระยะต่อไป
นายอรรถพลกล่าวต่อว่า ทีม คพ.และเจ้าหน้าที่กรมวิทยาศาสตร์ทหารบก ยังปฏิบัติหน้าที่เฝ้าระวังในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ทั้งการตรวจสอบความเข้มข้นของสารสไตรีน และฟอร์มาลดีไฮด์ที่ตกค้าง การเฝ้าติดตามเรื่องของมลพิษที่อาจจะตกค้างอยู่ในชั้นบรรยากาศ มีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องและผู้เชี่ยวชาญด้านสารเคมีร่วมกันประเมิน และวางแนวทางควบคุม เพื่อไม่ให้เกิดการลุกไหม้จากสารเคมี ส่วนชาวบ้านที่พักอาศัยในระยะรัศมี 1 กม.จากจุดเกิดเหตุ คือ ถนนกิ่งแก้วด้านทิศตะวันตกตั้งแต่ซอยกิ่งแก้ว 19-25 เป็นพื้นที่ควบคุมยังไม่อนุญาตให้เข้าพื้นที่ และขอให้ประชาชนติดตามประกาศของจังหวัดเป็นระยะ
ทั้งนี้ บริษัท KO Health นำเอนไซม์จุลินทรีย์ร่วมสนับสนุนภารกิจในการดับกลิ่นเพลิงไหม้และกลิ่นสารเคมีโรงงานหมิงตี้ เคมีคอล จำนวน 100 กก. มีนายอาวีระ ภัคมาตร์ ผอ.สำนักงานสิ่งแวดล้อม ภาค 13 ชลบุรี เป็นผู้รับมอบ นำนวัตกรรมเอนไซม์จุลินทรีย์ผสมในน้ำฉีดพ่นบริเวณแอ่งน้ำที่ท่วมขัง คาดว่าจะมีสารเคมีเจือปนอยู่ อีกทั้งจุลินทรีย์ดังกล่าวยังสามารถดับกลิ่นสารพิษและสารเคมี ไม่เป็นอันตรายต่อมนุษย์ พืชและสัตว์
เมื่อเวลา 16.00 น. ที่วัดทุ่งครุ ศาลา 5 เขตทุ่งครุ กทม. นายอนุชา นาคาศัย รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ประธานกรรมการกองทุนเงินช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย สำนักนายกรัฐมนตรี มอบเงินช่วยเหลือจากกองทุนเงินช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย สำนักนายกรัฐมนตรี จำนวน 1 แสนบาท ช่วยเหลือครอบครัวอาสาสมัครดับเพลิงนายกรสิทธิ์ ลาวพันธ์ หรือน้องพอส ผู้เสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ระงับเหตุเพลิงไหม้โรงงานหมิงตี้ นายอนุชาเปิดเผยว่า ขอแสดงความเสียใจและให้กำลังใจครอบครัวผู้เสียชีวิต ชื่นชมน้องพอสเป็นตัวอย่างด้านจิตอาสา เห็นถึงความตั้งใจ และความเสียสละของพนักงานดับเพลิงแม้จะไม่ได้รับเงินเดือน
ขณะที่นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ไลฟ์ผ่านเพจเฟซบุ๊กถึงการทำโครงการ “ก้าวหน้ากู้วิกฤติกิ่งแก้ว” ที่คณะก้าวหน้ารวบรวมอาสาสมัครกว่า 30 ชีวิต เตรียมเข้าพื้นที่ซ่อมแซมบ้านเรือนประชาชนเสียหายจากเหตุระเบิดสารเคมีที่โรงงานหมิงตี้ นายธนาธรกล่าวว่า ถนนกิ่งแก้วเป็นถนนเศรษฐกิจสำคัญ กระทบโรงงานอุตสาหกรรมโดยรอบ 1,120 โครงการ กระทบหมู่บ้าน ชุมชน 994 หมู่บ้าน มีผู้แจ้งความที่สภ.บางแก้วแล้ว 432 คน บ้านเรือนเสียหาย 569 หลัง คณะก้าวหน้าจะนำอาสาสมัครเข้าซ่อมบ้านเรือนให้ครัวเรือนที่มีรายได้น้อย ซ่อมแซมอาคารเรียนห้องพักครูให้โรงเรียนกิ่งแก้ว ตั้งแต่วันที่ 10 ก.ค. ยังมีปัญหาอีกมากต้องสะสางไม่ว่าปัญหาสิ่งแวดล้อม มลพิษทางอากาศ สิ่งปนเปื้อนที่จะลงแหล่งน้ำ การเยียวยา ประชาชนจากทางบริษัทหรือภาครัฐ ต้องเรียกร้องกันต่อไป
อ่านเพิ่มเติม...
Related Keywords