comparemela.com


เดลินิวส์
วันพุธที่ 7 กรกฎาคม 2021
ผนึกกำลังรับมือสู้โควิด (2) ส่งผู้ติดเชื้อรักษา ‘รพ.ตจว.’
ต้นสัปดาห์ เดือน ก.ค. ยังนับเป็นห้วงเวลาที่ค่อนข้างวิกฤติอีกครั้งของประเทศไทย ต่อการรับมือเจ้าเชื้อโควิด-19 ที่กลายพันธุ์ กำลังเล่นงานโจมตีประเทศไทยถึง 3 สายพันธุ์ด้วยกัน ทั้ง อัลฟา (อังกฤษ B117), เดลตา (อินเดีย B.1.617.2) และเบตา (แอฟริกาใต้ B.1.351)
ยอดติดเชื้อใหม่รายวัน รวมไปถึงยอดผู้เสียชีวิต ยังไม่มีทีท่าจะลดลง ผู้ติดเชื้อรายใหม่และผู้เสียชีวิตพุ่งทุบสถิติไปถึง 2 วันติด ๆ  โดยยอดวันจันทร์ที่ 5 ก.ค.ติดเชื้อรายใหม่ 6,166 ราย เสียชีวิต 50 ราย
(ยอดผู้ป่วยสะสม 283,233 ราย  ผู้เสียชีวิตสะสม 2,276 ราย) ส่วนการฉีดวัคซีนสะสม ตั้งแต่ 28 ก.พ.-3 ก.ค.64 รวม 10,670,897 โด๊ส เข็มที่ 1 สะสม 7,721,150 ราย เข็มที่ 2 สะสม 2,949,747 ราย
โดยมีพื้นที่
“กลุ่มเสี่ยง 10 จังหวัด”  รัฐบาลต้องยกระดับคุมเข้ม เพื่อใช้มาตรการควบคุมและสกัดกั้นการระบาดในพื้นที่  กรุงเทพมหานคร-ปริมณฑล (จ.นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ นครปฐม และสมุทรสาคร) รวมถึงพื้นที่ 4 จว.ชายแดนภาคใต้ (จ.ยะลา นราธิวาส ปัตตานี และสงขลา) ทำให้สภาพของพื้นที่ 10 จังหวัดขณะนี้ โรงพยาบาลหลายแห่ง รวมถึง รพ.สนาม ส่วนใหญ่อยู่ในสภาพวิกฤติทั้งเตียงล้น ไม่สามารถรับผู้ป่วยเพิ่มเติมได้ อีกทั้งบุคลากรทางการแพทย์ทำงานกันอย่างหนัก ยิ่งมีการสั่งปิดล็อกแคมป์ คนงานใน กทม.และปริมณฑล ทำให้บรรดาแรงงานทั้งชาวไทยและต่างชาติหลั่งไหลกลับบ้านพร้อมนำเชื้อไปด้วย
เชียงใหม่ตรวจเข้มมาจาก 10 จว.กลุ่มเสี่ยง
ช่วงนี้จึงเริ่มเห็นการผุดโครงการของสาธารณสุขหลาย ๆ จังหวัด ไม่ว่าจะเป็นภาคเหนือ หรือภาคอีสาน ออกประกาศอย่างชัดเจนแชร์ข้อมูลมากมายในโลกโซเชียล ให้ประชาชนที่มีภูมิลำเนา หรือมีทะเบียนบ้านในจังหวัดนั้น ๆ ที่มีผลยืนยันตรวจพบติดเชื้อโควิด-19 ต้องการจะกลับมารักษาตัวในจังหวัดบ้านเกิด ทีมข่าว 1/4 Special Report ได้ตรวจสอบข้อมูลการรับมือวิกฤติในพื้นที่ภาคเหนือกับทาง
นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผวจ.เชียงใหม่ เปิดเผยว่า ปัจจุบันจังหวัดเชียงใหม่ ดำเนินมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่อย่างเข้มงวด โดย จัดเจ้าหน้าที่ อสม. ตำรวจ ฝ่ายปกครอง สาธารณสุข ร่วมตั้งด่านเข้มงวดทุกเส้นทางเข้าจังหวัดเชียงใหม่ โดยเน้นที่บริเวณถนนสายเชียงใหม่-ลำปาง (ขาเข้า)จังหวัดเชียงใหม่บริเวณสะพานวงแหวนรอบ 3 ต.ยางเนิ้ง อ.สารภี ตรวจเข้มประชาชนทุกคนที่เดินทางเข้าจังหวัดเชียงใหม่ โดยกลุ่มคนที่เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยงทั้ง 10 จังหวัดจะต้องเข้าตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 ทันทีและกักตัวเป็น
เวลา 14 วัน
“แม้ปัจจุบันจังหวัดเชียงใหม่ ไม่พบคลัสเตอร์ใหม่ในพื้นที่ แต่จะมีผู้ติดเชื้อที่พบจากการสัมผัสเชื้อจากต่างจังหวัด แล้วเดินทางเข้ามาจังหวัดเชียงใหม่ทุกวัน และมาสัมผัสในชุมชน และครอบครัว จึงขอเน้นย้ำให้ผู้ที่เดินทางเข้ามาเชียงใหม่ต้องเคร่งครัดในมาตรการจังหวัดเชียงใหม่ รวมไปถึงได้ขอความร่วมมือให้เจ้าบ้าน ผู้ให้ที่พักอาศัย โรงแรม คอนโดฯ หอพักต่าง ๆ ต้องแจ้งผู้ที่เข้าพักให้ปฏิบัติตามคำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ หากไม่ปฏิบัติจะถือว่าเป็นความผิดตามกฎหมาย ส่วนการฉีดวัคซีนประชากรในจังหวัดเชียงใหม่มี  1.2 ล้านคน มีผู้ที่ได้รับการฉีดไปแล้ว 145,160 คน”
สำหรับการฉีดวัคซีนจังหวัดเชียงใหม่ ได้เปิดเว็บไซต์ “ก๋ำแปงเวียง”  และทำการรณรงค์ให้คนเชียงใหม่เข้ามาลงทะเบียนฉีดวัคซีน โดย จังหวัดเชียงใหม่มีประชากร 1.2 ล้านคน มีผู้ประสงค์ฉีดแล้ว 851,598 คน โดยขณะนี้มีผู้ที่ได้รับการฉีดไปแล้ว 145,160 โด๊ส
“ลำปาง” ประเดิมรับผู้ติดเชื้อมารักษา
ขณะเดียวกัน
นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผวจ.ลำปาง กล่าวว่า การติดเชื้อรายใหม่ส่วนใหญ่ในพื้นที่ เกิดขึ้นจาก 2 ปัจจัยใหญ่ ๆ  คือ การแพร่เชื้อเป็นกลุ่มก้อนภายในครอบครัว โดยสมาชิกในครอบครัว ที่เดินทางกลับจากพื้นที่เสี่ยง หรือได้สัมผัสกับบุคคลที่เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยง และไม่รักษามาตรการ จึงนำเชื้อมาติดกับสมาชิกในครอบครัว และจากกรณีคลัสเตอร์แคมป์คนงานก่อสร้างใน กทม.และปริมณฑล เมื่อรัฐบาลประกาศปิดแคมป์คนงาน เริ่มตั้งแต่วันที่ 28 มิ.ย.-27 ก.ค.64 จังหวัดลำปางจึงดำเนินมาตรการเพื่อเป็นการเฝ้าระวัง ป้องกัน การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 สำหรับประชาชนที่เดินทางเข้าจังหวัดลำปางให้ปฏิบัติอย่างเคร่งครัด ดังนี้ 1. ให้ลงทะเบียนเข้าพื้นที่จังหวัดลำปาง โดยสแกน QR code “ลำปางชนะ” (กรอกข้อมูลให้ครบถ้วนถูกต้อง) 2. ให้รายงานตัวต่อ อสม./ผู้นำชุมชน / จนท.สาธารณสุข ในพื้นที่ ของทุกหมู่บ้าน/ชุมชน โดยไม่ปกปิดข้อมูลไทม์ไลน์ในการเดินทาง เพื่อพิจารณาประเมินความเสี่ยง  3.กรณีมาจากกรุงเทพมหานครและปริมณฑล (นครปฐม นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ และ สมุทรสาคร) และพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ (นราธิวาส ปัตตานี ยะลา และสงขลา) ให้กักตัวเป็นเวลาอย่างน้อย 14 วัน และหากมีภารกิจจำเป็นต้องออกจากบ้าน/ที่พักอาศัย ต้องได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานควบคุมโรคทุกครั้ง
สำหรับประชาชนชาวลำปางขอความร่วมมือปฏิบัติตามมาตรการความปลอดภัย (DMHT) อย่างเคร่งครัด คือ D : Social Distancing เว้นระยะห่าง ไม่ไปในที่แออัด, M : Mask Wearing สวมหน้ากากอนามัย/ผ้า ตลอดเวลา, H : Hand Washing การล้างมือบ่อย ๆ ด้วยน้ำและสบู่หรือเจลแอลกอฮอล์ และ T : Tracking เช็กอินทุกสถานที่ที่เข้าไปด้วยการสแกนแอพพลิเคชั่นไทยชนะ
นอกจากนี้นายณรงศักดิ์  ผวจ.ลำปาง ยังได้นำร่องผุดโครงการ
“รับคนลำปางกลับบ้าน” โดยรับผู้ป่วยที่มีภูมิลำเนาเป็นคนลำปางที่อาศัยอยู่จังหวัดอื่น และมีผลตรวจยืนยันติดเชื้อโควิด-19 หากประสงค์มารับการรักษาที่จังหวัดลำปาง ให้ติดต่อ
“ศูนย์ประสานงานรับคนลำปางกลับบ้าน” หมายเลขโทรศัพท์ 09-0331-1493 โดยมีขั้นตอนดังนี้ 1. โทรฯประสานศูนย์ประสานงานรับคนลำปางกลับบ้าน 2. เดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัวเท่านั้น 3. เตรียมอาหารและน้ำดื่มให้เพียงพอกับช่วงระยะเวลาการเดินทาง 4. สวมหน้ากากอนามัยตลอดการเดินทาง 5. ขณะใช้ห้องน้ำให้สวมหน้ากากและล้างมือก่อนและหลังเข้าห้องน้ำ 6. ห้ามแวะระหว่างการเดินทางให้ตรงไปที่โรงพยาบาลที่ประสานงานไว้เท่านั้น
ภายหลังจากมีการเปิดศูนย์ประสานงานรับคนลำปางกลับบ้าน มีชาวลำปางบางคนไปทำงานอยู่ย่านลาดพร้าว กรุงเทพมหานคร ติดเชื้อโควิดมา 3 วัน แต่ต้องกักตัวอยู่ที่บ้านพัก เนื่องจาก รพ.ยังไม่มีเตียงรักษา ทางญาติพี่น้องใน อ.แม่ทะ จึงประสานงานแจ้งศูนย์ฯ ประสานงานช่วยเหลือ รับตัวกลับมารักษาที่ รพ.แม่ทะ จ.ลำปาง เป็นที่เรียบร้อย ส่วนข้อมูลจำนวนผู้ติดเชื้อในจังหวัดลำปางล่าสุด  มีจำนวนผู้ติดเชื้อ 29 คน โดยแบ่งออกเป็นผู้ป่วยจากโครงการรับคนลำปางกลับบ้าน 15 คน และที่จังหวัดลำปางตรวจพบเอง 14 คน
อย่างไรก็ตาม ผวจ.ลำปาง ยังคงย้ำเตือนประชาชนทั่วไปให้ปฏิบัติตนตามมาตรการความปลอดภัย (DMHT) อย่างเคร่งครัด และหลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยง เช่น การดื่มสุราสังสรรค์เป็นกลุ่ม การเข้าไปในสถานที่เสี่ยง สถานที่แออัด ยังถือเป็นเรื่องสำคัญของทุกคน ทั้งนี้ หากมีข้อสงสัยสามารถติดต่อได้ที่ สายด่วนศูนย์โควิด-19 จ.ลำปาง โทร.09-3140-8023 ได้ทุกวันระหว่างเวลา 08.30-16.30 น.
ปัจจุบัน จังหวัดลำปางได้ดำเนินการฉีดวัคซีนไปแล้วทั้งสิ้น 45,191 โด๊ส (ยอดวันที่ 5 ก.ค.) แบ่งออกเป็นกลุ่มผู้สูงอายุร้อยละ 33.5 กลุ่มผู้มีโอกาสสัมผัสกับผู้ติดเชื้อ ร้อยละ 22.6 กลุ่ม อสม. ร้อยละ 18.6 กลุ่มบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขร้อยละ 18  และกลุ่มผู้ป่วยเรื้อรัง 7 โรค ร้อยละ 8.1 ตามลำดับ ทั้งนี้ จากจำนวนประชากร 728,964 คน.
ข่าวอื่นๆ

Related Keywords

Phrao ,Chiang Mai ,Thailand ,Bangkok ,Krung Thep Mahanakhon ,China ,Thana ,Maharashtra ,India ,Czech Republic ,Samut Sakhon ,Spain ,London ,City Of ,United Kingdom ,Lampang ,Phrae ,Connecticut ,United States ,Spanish ,Chinese ,Yala Songkhla ,Dank Tai Yala ,Public Health ,Hotel Connecticut ,Thailanda National ,Alcoa ,Alcoa David ,Stewart Peak ,Rush Smash ,Speak Monday ,Gan Chinese ,Samut Sakhon Province ,Province Homeland ,Province Mai ,Protection Phrae Province ,Province London ,Last Province Chiang Mai ,Last Province London ,Province Chiang Mai ,World Wide Web ,Designation Dispensary Thana ,Phrae Province ,Province Lampang ,Last Province Lampang ,Lampang Province ,Hall Village ,Great City ,Dank South Narathiwat Province Pattani ,Lat Phrao District The Great City ,சியாங் மை ,தாய்லாந்து ,பாங்காக் ,சீனா ,தானா ,மகாராஷ்டிரா ,இந்தியா ,செக் குடியரசு ,ஸ்பெயின் ,லண்டன் ,நகரம் ஆஃப் ,ஒன்றுபட்டது கிஂக்டம் ,லம்பங் ,கனெக்டிகட் ,ஒன்றுபட்டது மாநிலங்களில் ,ஸ்பானிஷ் ,சீன ,பொது ஆரோக்கியம் ,அல்கோவா ,உலகம் பரந்த வலை ,லம்பங் மாகாணம் ,அனைத்தும் கிராமம் ,நன்று நகரம் ,

© 2025 Vimarsana

comparemela.com © 2020. All Rights Reserved.