comparemela.com


พุธ 21 กรกฎาคม 2564
‘เงินบาท’ วันนี้เปิด‘อ่อนค่า’ ที่32.82บาทต่อดอลลาร์
21 กรกฎาคม 2564
114
แนวโน้มค่าเงินบาทยังคงเผชิญแรงกดดันฝั่งอ่อนค่า จากปัญหาการระบาดของ โควิด-19 ในไทย ที่ยังไม่ถึงจุดเลวร้ายสุด กดดันนักลงทุนต่างชาติทยอยขายสินทรัพย์ในไทย และการฟื้นตัวเศรษฐกิจทั่วโลก คาดเงินอ่อนค่าระยะสั้น มองกรอบเงินบาทวันนี้32.75-32.90บาทต่อดอลลาร์
นายพูน พานิชพิบูลย์  นักวิเคราะห์ประจำห้องค้าเงินธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า  ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ  32.82 บาทต่อดอลลาร์อ่อนค่าลงเล็กน้อย à¸ˆà¸²à¸à¸£à¸°à¸”ับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ  32.80 บาทต่อดอลลาร์ มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 32.75-32.90 บาทต่อดอลลาร์
สำหรับแนวโน้มค่าเงินบาทยังคงเผชิญแรงกดดันฝั่งอ่อนค่า จากปัจจัยหลัก คือ ปัญหาการระบาดของ โควิด-19 ในไทย โดย หากสถานการณ์การระบาดในไทยยังมีแนวโน้มทวีความรุนแรงมากขึ้น และเรามองว่า จุดเลวร้ายสุดของการระบาดยังมาไม่ถึง ทำให้ เราคงประเมินว่า นักลงทุนต่างชาติก็ยังสามารถทยอยขายสินทรัพย์ไทย โดยเฉพาะหุ้นไทย ซึ่งแรงเทขายสินทรัพย์ไทยจากนักลงทุนต่างชาติยังคงกดดันให้ค่าเงินบาทอ่อนค่าลงได้
ขณะเดียวกัน การอ่อนค่าอย่างรวดเร็วของเงินบาท อาจทำให้ผู้นำเข้าต้องรีบกลับเข้ามาแลกซื้อเงินดอลลาร์ หรือ สกุลเงินต่างประเทศ โดยเฉพาะในช่วงปลายเดือนที่ผู้นำเข้ามักจะมีภาระจ่ายเงินออกเป็นสกุลเงินดอลลาร์หรือสกุลเงินต่างประเทศ ซึ่งโฟลว์ธุรกรรมจากบรรดาผู้นำเข้าที่เร่งเข้ามาซื้อเงินดอลลาร์หรือสกุลเงินต่างประเทศ จะทำให้โดยรวมค่าเงินบาทยังมีแนวรับที่สำคัญอยู่ในโซน 32.70-32.80 บาทต่อดอลลาร์
ขณะที่แนวต้านสำคัญของเงินบาทจะอยู่ในช่วง 33.00 บาทต่อดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับที่ผู้ส่งออกส่วนใหญ่รอทยอยขายเงินดอลลาร์อยู่ ดังนั้น ค่าเงินบาทอาจผันผวนในกรอบที่กว้างขึ้นจากเดิมได้
นอกจากนี้ ปัญหาการระบาด โควิด-19 ทั่วโลก ที่กดดันแนวโน้มการเติบโตเศรษฐกิจ ยังคงเป็นปัจจัยหนึ่งที่ต้องระวังเพราะหากผู้เล่นในตลาดเริ่มกังวลมากขึ้น เงินดอลลาร์ก็ยังสามารถแข็งค่าขึ้นต่อได้ จากความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัย (Safe Haven Asset) ทำให้ เงินบาทยังมีแนวโน้มอ่อนค่าลงในระยะสั้นนี้
แม้ว่า ผู้เล่นในตลาดจะความกังวลปัญหาการระบาดของโควิด -19 ทั่วโลก ทว่า ความหวังการฟื้นตัวของเศรษฐกิจรวมถึง แนวโน้มผลประกอบการบรรดาบริษัทจดทะเบียนที่อาจออกมาแข็งแกร่ง ได้หนุนให้ ผู้เล่นในตลาดบางส่วนกล้าที่จะเข้าไปซื้อสินทรัพย์เสี่ยง หลังจากที่ตลาดการเงินปรับฐานไปในวันก่อน หรือ Buy on Dip โดยในฝั่งสหรัฐฯดัชนี Dowjones พลิกกลับมาปิดตลาด +1.62% หนุนโดยกาปรับตัวขึ้นของหุ้นในกลุ่ม Cyclical ส่วนดัชนี S&P500 ก็ปรับตัวขึ้นราว +1.52% เช่นกัน ขณะที่ หุ้นในกลุ่มเทคฯ ก็รีบาวด์ขึ้นเช่นกัน หลังบอนด์ยีลด์ 10ปี สหรัฐฯ ยังคงทรงตัวใกล้ระดับ 1.20% ขณะที่ผู้เล่นในตลาดต่างคาดหวังรายงานผลการดำเนินงานของหุ้นกลุ่มเทคฯ ที่อาจขยายตัวต่อเนื่อง ส่งผลให้ ดัชนี Nasdaq ปิดบวกราว +1.57%
ส่วนในฝั่งยุโรป ดัชนี STOXX50 ของยุโรป รีบาวด์ขึ้น +0.71% จากแรงซื้อหุ้น Buy on Dip เช่นเดียวกับในฝั่งสหรัฐฯโดยผู้เล่นในตลาดกลับมาทยอยซื้อหุ้นในกลุ่ม Cyclical คืน หนุนให้ หุ้นเกี่ยวข้องกับธุรกิจการบินรีบาวด์กลับขึ้นมาบ้าง Safran +2.82%, Airbus +2.34%ส่วนหุ้นกลุ่มการเงินก็รีบาวด์เช่นกัน ท่ามกลางความหวังว่า งบการเงินในไตรมาสที่ 2 จะออกมาสดใส Intesa Sanpaolo +1.94%, BNP Paribas +1.89% ซึ่งภาพดังกล่าว สอดคล้องกับมุมมองของเรา ที่เชื่อว่า การปรับฐานหุ้นยุโรปเป็นเพียงแค่การปรับฐานในระยะสั้น เพราะแนวโน้มเศรษฐกิจยุโรป รวมถึงแนวโน้มผลกำไรหุ้นยังสามารถขยายตัวได้ดี ทำให้หุ้นยุโรปจะกลับมาปรับตัวขึ้นต่อได้ไม่ยาก
ในฝั่งตลาดบอนด์ ผู้เล่นในตลาดส่วนใหญ่ ยังไม่ค่อยมั่นใจต่อแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ทำให้ บอนด์ยีลด์10ปี สหรัฐฯยังคงทรงตัวใกล้ระดับ 1.22% ซึ่งเรามองว่า ภาพดังกล่าว สอดคล้องกับทิศทางของเงินดอลลาร์ที่ยังคงปรับตัวแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักตามความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัย (Safe Haven asset) เพื่อหลบความผันผวนของตลาดในระยะสั้น  โดยล่าสุดดัชนีเงินดอลลาร์ (DXY Index) ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 92.97 จุด กดดันให้สกุลเงินหลัก อาทิ เงินยูโร (EUR) ทรงตัวที่ระดับ 1.178 ดอลลาร์ต่อยูโร เช่นเดียวกับ เงินปอนด์ (GBP) ที่ยังอยู่ ณ ระดับ1.363 ดอลลาร์ต่อปอนด์

Related Keywords

United States ,Taiwan ,Japan ,Thailand ,Toronto ,Ontario ,Canada ,Pune ,Maharashtra ,India , ,Bank Thailand ,Alcoa ,New Taiwan ,Pune Panasonic Mani ,David Xix ,Land United States Index ,Land Europe Index ,Land Asia ,June Peak ,ஒன்றுபட்டது மாநிலங்களில் ,டைவாந் ,ஜப்பான் ,தாய்லாந்து ,டொராண்டோ ,ஆஂடேரியொ ,கனடா ,புனே ,மகாராஷ்டிரா ,இந்தியா ,வங்கி தாய்லாந்து ,அல்கோவா ,புதியது டைவாந் ,நில ஆசியா ,ஜூன் உச்சம் ,

© 2024 Vimarsana

comparemela.com © 2020. All Rights Reserved.